ค่าเฟ่ที่จะต้องไปให้ได้ 

คาเฟ่นี้มีชื่อว่าคิดใหม่ death Cafe ซึ่งกาแฟนี้เป็นคาเฟ่ที่โด่งดังมากแต่ Cafe นี้เป็นคาเฟ่ที่แตกต่างจากที่อื่นและไม่เหมือนใครเลยจริงๆซึ่งที่นี่นั้นจะเป็นการจำลองว่าเราตายไปแล้วยกตัวอย่างเช่นจะเป็นการเขียนจดหมายลาตายให้กับคนที่เรารักหรือลองไปนอนในหลุมศพจริงๆหรือแม้กระทั่งเขียนพินัยกรรมซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าการนอนในโรงการเขียนพินัยกรรมหรือการเขียนจดหมายลาตายนั้นเป็นเช่นไร

ที่นี่โด่งดังมากก็เพราะกิจกรรมแปลกๆของที่นี่เองแหละค่ะซึ่งยังมีชื่อเมนูแปลกๆมากมายแต่ชื่อเมนูที่ดังที่สุดคือเมนูเกิดแก่เจ็บตายค่ะซึ่งคาเฟ่ในนั้นจะเปิดตั้งแต่ 9:00 นไปจนถึง 19:00 นค่ะสำหรับเบอร์โทรของคาเฟ่นี้ถ้าต้องการตรวจสอบถามรายละเอียดจาก Cafe ให้โทรหมายเลข 06 3234 4519 ลองไปกันดูนะคะรับรองว่าจะต้องชอบแน่นอนค่ะ

 A clay cafe หลังจากที่ไปทดลองความตายแล้วเรามาต่อกันที่นี่กันดีกว่าค่ะชื่อบอกเลยว่าที่นี่นั้นหลายอย่างเลยทำมาจากดินเหนียวปั้นซึ่งเมนูยอดนิยมจะเป็นชาซึ่งนอกจากจะเป็นชาที่ตรงแก้มมีลวดลายแล้วคุณชายยังมีลวดลายยกตัวอย่างเช่นลายใบไม้หรืออะไรต่างๆอีกมากมายค่ะซึ่งร้านนี้มีใครร้ายอย่างหนึ่งคือตรงชั้นหนึ่งจะมีโซนที่จะทำให้เราสามารถสร้างของขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง

ซึ่งคนที่ชอบในการทำงานประดิษฐ์แนะนำให้ต้องมาที่นี่ค่ะเพราะเราสามารถประดิษฐ์ของทุกอย่างได้ด้วยตัวเองเลยนะคะ ซึ่งที่นี่นั้นตั้งอยู่ในย่านสาทรค่ะ ซึ่งร้านนี้นั้นเปิดเฉพาะวันอังคารกับวันเสาร์เท่านั้นนะคะในวันอื่นจะปิดค่ะฉันจะเปิดบริการตั้งแต่ 11:00 น.ไปจนถึง 22:00 นค่ะ ซึ่งถ้าใครสนใจในการไปที่นี่นั้นถ้าต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมให้โทรไปที่หมายเลข  09  3580  4291  ค่ะ 

cintage cafe ที่นี่นั้นส่วนใหญ่จะตกแต่งไปด้วยสีชมพูดังนั้นใครก็ตามที่เป็นคนที่ชอบสีชมพูจะต้องมาที่นี่ค่ะที่นี่น้ำจะตกแต่งน่ารักๆตกแต่งสวนคาเฟ่ที่ประเทศญี่ปุ่นของกินก็น่ารักนอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นร้านขายเสื้อผ้าไปในตัวด้วยซึ่งจะถูกใส่ไว้ในหุ่นน่าจะมีเสื้อผ้าน่ารักๆของคนญี่ปุ่นตั้งอยู่เต็มไปหมดนอกจากนั้นยังมีบริการทาเล็บล้างเล็บให้อีกด้วย

บอกว่าที่นี่นั้นเหมือนเป็นร้านเสริมสวยตกแต่งไปกับพร้อมกับคาเฟ่เลยค่ะเรื่องที่นี่นั้นตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ค่ะเขตปทุมวันที่กรุงเทพฯอยู่ซอย 10 ค่ะ การเปิดบริการให้คุณไปเที่ยวได้ตั้งแต่ 11:00 น.ไปจนถึง 20:00 น.ค่ะ 

ถ้าใครชอบก็ลองไปดูกันนะคะ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  dewabet

ประเทศเกาหลีใต้

          ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศอีกประเทศหนึ่งที่คนไทยมักนิยมอยากจะไปเที่ยวที่นี่กันเป็นจำนวนมากแต่อย่างไรก็ตามประเทศเกาหลีใต้นั้นถือเป็นประเทศที่คนไทยเข้าไปเที่ยวได้ยากมากเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าระบบการจัดการเปิดคัดกรองคนเข้าเมืองนั้นค่อนข้างเข้มงวดหลายคนนั้นถึงแม้ว่าจะซื้อตั๋วเดินทางไปถึงสนามบินของเกาหลีใต้แล้ว

ก็ตามแต่ก็ถูกส่งตัวกลับมาประเทศไทยและไม่ให้เข้าประเทศซึ่งแน่นอนว่าการคัดกรองอย่างเข้มงวดนี้ทำให้ความต้องการของคนไทยนั้นอยากจะไปเที่ยวเกาหลีใต้กันเป็นอย่างมากโดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นมักจะไปเที่ยวตามรอยซีรีย์ที่ตนเองชื่นชอบเพราะสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของเกาหลีใต้นั้น

ส่วนมากก็มักจะเป็นสถานที่ที่เคยมีการถ่ายทำซีรี่ย์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเกาหลีใต้และเมื่อมีการขายออกไปตามประเทศต่างๆก็จะทำให้คนในประเทศนั้นเมื่อได้ชมภาพยนตร์หรือชมซีรีย์แล้วอยากจะไปตามรอยพระเอกนางเอกไปถ่ายรูปเก็บเอาไว้สำหรับคนไทยที่เข้าไปเที่ยวที่เกาหลีใต้ยากนั้นอาจจะมีสาเหตุ

เนื่องจากว่ามีหลายคนที่ทำพาสปอร์ตเลือกเข้าไปเที่ยวที่เกาหลีได้แต่เอาเข้าจริงๆเมื่อเข้าไปแล้วก็แอบไปหนีทำงานเป็นผีน้อยที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ซึ่งทำให้คนเกาหลีใต้นั้นจึงจำเป็นต้องเข้มงวดกับคนไทยเป็นพิเศษเพราะไม่อยากให้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวแต่เข้ามาทำงานในประเทศเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายนั้นเองแต่อย่างไรก็ตาม

ถ้าเกิดว่าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่เกาหลีใต้แล้วแล้วก็ส่วนใหญ่มักจะไปเที่ยวกันที่เกาะเชจูแล้วก็มักจะไปสถานที่ต่างๆเช่นถ้าช่วงไหนซีรีย์เรื่องไหนฮิตก็จะมีการตรวจสถานที่นั้นเอาไว้แล้วตามรอยซีรีย์นั้นๆซึ่งแต่ละที่นั้นก็จะมีความสวยงามเหมือนกับเรานั้นได้ไปเข้าฉากเป็นพระเอกนางเอกกันเลยทีเดียวอีกอย่างหนึ่งที่เกาหลีใต้มักจะนิยมให้นักท่องเที่ยว

ทำกันนั้นก็คือการใส่ชุดของคนเกาหลีแบบโบราณถ่ายรูปรวมถึงพาไปเยี่ยมชมสถานที่ผลิตโสมซึ่งเป็นสิ่งขึ้นชื่อของประเทศเกาหลีใต้นั่นเองและแน่นอนว่าคนไทยหากไปเที่ยวที่เกาหลีใต้แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการไปชอปปิ้งเครื่องสำอางเนื่องจากว่าเกาหลีใต้นั้นขึ้นชื่อเรื่องของครีมบำรุงผิวที่ทำให้ผิวนั้นเนียนขาว

และเป็นประเทศที่คนไทยนิยมไปทำการศัลยกรรมที่เกาหลีใต้กันมากเนื่องจากว่าเวลาที่ศัลยกรรมออกมาแล้วหน้าตาจะดูดีเหมือนพระเอกนางเอกเกาหลีเลยทีเดียว สถานที่ทอ่งเที่ยวในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ทอ่งเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีความสวยงาม 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัครsagame

โรงแรมสวยๆที่เมืองลอนดอน

โรงแรมสวยๆที่เมืองลอนดอนที่เริ่มต้นกับราคาถูกถูกแค่เพียง 3500 บาทเท่านั้น

เชื่อว่าช่วงนี้นั้นทุกคนต่างก็เริ่มที่จะวางแผนไว้ว่าหลังจากที่เรามีเงินและเชื้อไวรัสที่กำลังระบาทอยู่นี้หายไปแล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี ซึ้งถ้าจะถาฉันล่ะก็ขอบอกเลยค่ะว่าต้องเป็นประเทศอังกฤษอยู่แล้วและถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษนั้นสิ่งที่บืมไม่ได้นั้นก็คือเมืองลอนดอนค่ะ เพราะเมืองนี้นั้นมีโรงแรมสวยๆเต็มไปหมดนอกจากนั้นยังมีร้านอาหารอร่อยๆ

และสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยๆหลายที่เลยล่ะค่ะ และวันนี้เราก็จะมาบอกถึงโรมแรมที่ราคานั้นไม่แพงมากค่ะ แต่รับรองเลยค่ะว่ามีการบริการที่ดีเยี่ยมยอดมากเลยล่ะค่ะ และโรงแรมที่ว่านั้นจะมีโรงแรมอะไรบ้างเดี๋ยวเราจะไปดูกันเลยค่ะ

โรงแรมที่เราจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยนั้นก็คือ โรงแรม  ST GILES CLASSIC HOTEL โรมแรมที่โด่งดังในย่านกรุงลอนดอน โรมแรมนี้นั้นเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนค่ะซึ้งที่นั้นก็มีความโงดังด้วยนะคะซึ้งโด่งดังเกี่ยวกับเรื่องของการดูและและทำความสะอาดที่ดีเยี่ยมยอดเลยค่ะ ซึ้งที่นั้นนั้นมีของมากมายซึ้งเป็นของที่ทางโรมแรมนั้นจะให้เราสามารถใช้ได้ทั้งหมดเพียงจ่ายเงินเพิ่มนิดหนึ่งค่ะ

ซึ้งของหลายๆอย่างที่ต้องขอบอกที่ทางโรงแรมนั้นให้นั้นก็คือ กาน้ำชา ซองกาแฟสำเร็จรูปร่วมไปถึงซองชาสำเร็จรูปค่ะ นอกจากนั้นที่นี้นั้นยังมีอีกจุดหนึ่งที่เรียกได้ว่าดีมากมากเลยค่ะนั้นก็คือสระว่ายน้ำค่ะ ถ้าพูดถึงสระว่ายน้ำหลายคนก็คงจะคิดว่ามันคือสระกลางแจ้งกันใช่มั้ยคะ  ? แต่ที่นี้นั้นไม่ใช้อย่างที่คุณคิดค่ะ

เพราะมันนั้นจะอยู่ภายในตัวอาคารเองค่ะ โดยไม่ว่าจะแดดร้อน หิมะตก หรือฝนตกหนักมากแค่ไหนคุณก็ยังสามารถที่จะว่ายน้ำได้ค่ะ เรียกได้ว่าคุ้มมากเลยล่ะค่ะกับการที่เราจะเสียเงินไป และนอกจากนั้นหากเราเห็นห้องพักแล้วรับรองว่าต้องอึ้งเลยล่ะค่ะ เพราะว่าห้องพักนั้นมีความสะอาดมากเลยล่ะค่ะรับรองเลยล่ะค่ะว่าโรงแรมที่บอกมานี้นั้น

จะต้องคิดใจอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ โดยราคาของโรงแรมนี้นั้นจะไม่ต่ำกว่าราคา 113.12 ดอลล่าค่ะ ซึ้งหากใครต้องการเป็นเงินไทยนะคะก็คือ จะเริ่มต้นราคาตั้งแต่ 3500 บาทขึ้นไปเลยค่ะ ซึ้งหากใครต้องการรู้ถึงที่อยู่ที่ชัดเจนมากกว่านี้คุณก็สามารถที่จะลองไปค้นหาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์แผนที่ได้เลยนะคะ

 

 

สนับสนุนโดย  bk8

การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่

หลังจากที่แต่ละประเทศเริ่มมีผ่อนปรนมาตรการให้ประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติและไม่ได้จำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้านต่อไปนั้น สิ่งที่ตามต่อมาคือ การเคลื่อนไหวและการขยับที่เริ่มแผนท่องเที่ยวออกมาของแต่ละครอบครัว ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละคนและครอบครัวนั้นก็อัดอั้นกันมานาน เตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อย และก็ไม่ใช่เฉพาะแต่นักท่องเที่ยวอย่างเดียว

ที่รู้สึกอยากปลดปล่อย ในส่วนของสถานที่ให้บริการท่องเที่ยวต่างๆ โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ก็เตรียมพร้อมจะปลดปล่อยเช่นเดียวกัน หลังจากที่ต้องหยุดกิจการมาไม่ต่ำกว่าสามเดือน แต่การกลับมาครั้งนี้นั้น ทุกอย่างก็คงต้องมีการระมัดระวังและไม่ประมาทกันจนเกินไป ไม่งั้นอาจมีระลอกสองที่ต้องสั่งปิดประเทศกันอีก ดังนั้นคงต้องระวังกันหลายเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะอาด จุดนี้คงต้องมาเป็นอันดับแรกที่นักท่องเที่ยวและผู้ให้บริการต้องระวัง ทุกที่ต้องมีมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือโรงแรม ที่พัก รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะได้ทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ และช่วยกันกล้าออกมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น หรือแม้แต่การใช้หุ่นยนต์ ที่เทคโนโลยีของโลกเรานั้น

ไปไกลแล้ว ดังนั้นจากนี้ไปเราอาจจะเริ่มเห็นหุ่นยนต์มาคอยทำงานแทนคนไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกก็เริ่มหันมานิยมใช้หุ่นยนต์แทนคนทำงาน อย่างเช่นประเทศเกาหลีใต้ที่ตอนนี้หุ่นยนต์นั้นมีหน้าที่ทำอาหารและเสริฟ์อาหาร์ในร้านแล้ว ส่วนคนนั้นมีคนเดียวในร้านคือเจ้าของร้าน หรือแม้แต่ที่ประเทศอเมริกา

ที่สนามบินเริ่มมีการใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดแทนคนแล้ว ส่วนที่ไทยตอนนี้นำร่องด้วยโรงภาพยนตร์ที่ใช้หุ่นยนต์มาช่วยตรวจคัดกรองวัดไข้ก่อนที่ลูกค้าจะเข้าไปดูหนัง รวมไปถึงมีหน้าที่ทำการต้อนรับด้วย และอีกจุดหนึ่งที่คงจะต้องทำมาใช้อย่างช่วยไม่ได้ ก็คือมาตรการ Social Distancing ที่ยังคงต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการนั่งห่างกันแบบเบาะเว้นเบาะ

ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่ ซึ่งอาจจะทำให้จำนวนคนมาใช้บริการนั้นน้อยลงกว่าปรกติ เพราะด้วยมาตรการนี้ที่ต้องระวังเรื่องการชุมนุมในสถานที่หนึ่งไม่ให้แออัดกันเกินไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อ ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ของร้านอาหาร ที่พัก โรงแรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ลดรายได้ลงไป

แต่ก็เป็นการดีกว่า ให้ผู้คนแห่กันเข้ามาใช้บริการและเกิดการแพร่ระบาดกันรอบสอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ตามมาคงจะหนักกว่าการปิดประเทศครั้งแรก นั่นอาจจะทำให้เกิดมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม และคราวนี้อาจจะปิดนานกว่านั้นด้วย ยังไงก็คงต้องปรับตัวกันไปตามรูปแบบการท่องเที่ยวยุคใหม่นะ

 

สนับสนุนโดย  bk8