สำหรับสถานที่แรกที่อยากแนะนำให้รู้จักนั่นก็คือ เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะแห่งหนึ่งที่ประเทศไทยซึ่งเรียกได้ว่ามีน้ำที่ใสมากๆจนเราสามารถมองเห็นพื้นทรายในนั้นได้เลยทีเดียว โดยนางนั้นก็สะอาดมากๆเลยสีของน้ำจะออกเป็นแนวสีเขียวมรกตสำหรับต่างชาตินั้นให้คะแนนกับเกาะหลีเป๊ะของไทยเลยว่าน้ำใสและสวยงามพอๆกับมัลดีฟส์ของต่างประเทศเลยทีเดียวจึงยกตำแหน่งเกาะหลีเป๊ะให้เป็นเกาะมัลดีฟส์สำหรับประเทศไทย
นอกจากนั้นจะใส่แล้วนั้นทรายของเกาะหลีเป๊ะก็มีความสะอาดเป็นอย่างมากซึ่งสายนั้นเป็นลักษณะออกสีขาวโพลนให้ดูเหมือนหิมะนิดๆเรียกได้ว่าสวยงามมากๆเลยทีเดียว ที่มีปะการังที่ทำให้วิวสวยงามยิ่งขึ้นและนั้นก็ทำให้เกาะหลีเป๊ะนั้นเป็นเกาะที่ดูอุดมสมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิม
อันดับต่อมาคือ อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกวแห่งประเทศจีน
โดยอุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกวนั้นที่มีความโด่งดังส่วนหนึ่งเพราะว่าน้ำตกธารไข่มุกซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากๆเลยทีเดียวและเป็นน้ำตกที่มีความสูงมากน้ำนั้นก็ใสมากๆและก็น้ำแรงมากด้วยแต่อีกจุดนึงก็ได้ใกล้ๆกันนั้นก็จะมีทะเลสาบซึ่งมีชื่อว่า ทะเลสาบ 5 สีเพราะว่าดูแล้วจะมีสีไล่กันเป็น 5 สีด้วยกันทำให้ดูเป็นลำธารแม่น้ำที่สวยมากๆเลยทีเดียว
ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหลายๆคนที่จะมาถ่ายรูปกับครอบครัวและคู่รักด้วยกันเพื่อเก็บภาพความทรงจำว่าตัวเองนั้นเคยมาเที่ยวที่สวยๆแบบนี้ ซึ่งที่น้ำมี 5 สีแบบนี้ก็เพราะว่ามีการทับถมของแคลเซียมHavanese ทำให้ได้เกิดการสะท้อนและการทับถมต่างๆนานาจนกลายเป็นสี 5 สีด้วยกันนอกจากนั้นน้ำก็ยังใสมากจนสามารถมองเห็นพื้นข้างล่างใต้น้ำของแม่น้ำเลย
และสถานที่สุดท้ายคือ Blue Lake
ที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้นจะมีเมืองอยู่เมืองหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าเมืองเนลสันในเมืองนี้นั้นได้ฉายาและรู้จักในนามของเมืองที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดทั่วทั้งปีโดยที่นี่ไอ้นั่นก็คือที่ตั้งของ Blue Lake ซึ่งมีฉายาว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดในโลกเพราะมีความน้ำใสสวยจนมองเห็นพื้นกันเลยทีเดียว โดยน้ำที่นี่นั้นมีความใสมากจนคุณยังสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่างสุดของทะเลสาบ
ซึ่งมีความลึกมากกว่า 80 เมตรด้วยกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครได้มีโอกาสไปเที่ยวที่นี่จะให้ความรู้สึกเพลิดเพลิน และผ่อนคลายเป็นอย่างมาก และนี่ก็คือ 3 สถานที่เที่ยวที่มีน้ำใสมาก เหมือนกับว่าเรากำลังส่องกระจกเวลาเล่นน้ำอยู่เลยทีเดียว
สนับสนุนโดย hiallbet