พี่ทั้งสองคนก็ได้มาส่งผมถึงยังหน้า Hostel ที่ผมได้จองไว้ช่างเป็นนำใจที่สวยงามที่ผู้รับอย่างผมคงจะลืมไม่ลงจริงๆเช้าในวันใหม่ผมได้ตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะรอเลิฟซีทัวร์ทะเลใต้ ณ เรือ ต.813 อนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ที่รุนแรงที่สุดในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2547ที่ได้พัดเอารือตรวจการหมายเลข 813มาเกนตื้้น
ณ จุดนี้ ซึ่งอยู่ข้างๆกับKhaolak Mind Home Hostel ที่ผมพักอยู่และรถตู้ของเลิฟซีทัวร์ทะเลใต้ก็พาผมมาถึงยังท่าเรือการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในใจของผมเพราะมีหลายจุดในเส้นทางนี้ที่ผมต้องการเห็นกับตาสักครั้งและการเดินทางในช่วงแรกที่กำลังจะผ่านพ้นแนวป่าชายเลนไปยังอ่าวพังงาเพื่อเข้าสู่การทัวร์อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาครั้งนี้
ภายใต้เพดานของถ้ำนั้นเต็มไปด้วยหยดน้ำที่ไหลลงมาจากรากไม้บนเขาหินปูนเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้าวไว้เอาอย่างลงตัวผมล่องเรือชมทัศนียภาพของเขาหินปูน ณ พังงา ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างเพราะสถานที่แห่งนี้นั้นไม่หนาแน่นไปด้วยผู้คนอย่างที่เคยพบมา เกาะปันหยี่เป็นจุดแรกที่เราผ่านและเรือจะกลับมาจอดที่นี่อีกครั้ง
ในขากลับผมเดินทางมาจุดพักเรือเพื่อเข้าสู่การพายเรือชมทัศนียภาพ ณ เกาะทะลุ ซึ่งเป็นระแวกที่เต็มไปด้วยเขาหินปูนและรายล้อมไปด้วยนานาถ้ำ เมื่อน้ำลดระดับลงการพายเรือลอดเข้าถ้ำ ณ เกาะทะลุแห่งนี้ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์เราจะสามารถเข้ามาสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดบรรยากาศและฟิลลิ่งที่คล้ายคลึงดั่งภาพยนตร์ถูกซ่อนอยู่ในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาสถานที่ที่ไม่ได้พลุกพล่านไปด้วยผู้คนแต่ถูกโอบล้อมไปด้วยใจกลางของธรรมชาติจนบางครั้งผมถึงกับเผลอรู้สึกว่านี่คงจะเป็นฉากเพียงไม่กี่ฉากในชีวิตที่
ที่เราควรจะเข้าไปอยู่ในเนื้อเรื่องของทุกคนที่ผมรักเสียงด้านของธรรมชาติและผู้คนที่อยู่ในท้องถิ้นช่างประสานเป็นเนื้อเดียวกันราวกับว่าในหนึ่งบนของดนตรีก็ต้องมเนื้อร้องเป็นสิ่งที่อ่าวพังงาช่างเหมาะสมกับคำว่าธรรมชาติยังอยู่ครบและผมก็เดินทางมาถึงยัง เกาะเขาพิงกัน หรืออีกชื่อหนึ่งที่ฝรั่งรู้จักกันว่า เกาะเจมส์บอนด์ ซึ่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องเจมส์บอนด์นั้นได้เคยถูกถ่ายทำ ณ เกาะแห่งนี้เมื่อในปีประมาณ พ.ศ.2517และเกาะที่นี่ยังเป็นทิวทัศน์เป็นที่ตั้งของเขาตาปู ซึ่งเป็นแลนด์มาร์ดที่บ่งบอกในความเป็นพังงาได้อย่างชัดเจน การเดินทางเสียงของผู้คนในวันที่แตกต่าง